ออมเงินค่ารักษาพยาบาล VS ซื้อประกันสุขภาพ แบบไหนดีกว่ากัน

การวางแผนทางการเงินสำหรับดูแลสุขภาพนั้น เป็นเรื่องที่สำคัญเพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าอนาคตจะเจ็บป่วยเมื่อไหร่ จะเกิดปัญหาอะไรเกี่ยวกับสุขภาพบ้าง ดังนั้น การออมเงินหรือการทำประกันสุขภาพ จึงเป็นตัวช่วยการเงินที่ทำให้เราไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ไม่คาดฝัน ทั้งนี้ เราจะเลือกเก็บออมเงินไว้สำหรับค่ารักษาพยาบาลหรือจะเลือกทำประกันสุขภาพ แบบไหนจะเหมาะกับเรามากที่สุด สามารถติดตามได้ในบทความนี้

การออมเงินเพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลมีข้อดี - ข้อเสียอย่างไร
ข้อดีของการออมเงิน

  • สามารถปรับเปลี่ยนเงินเก็บได้: เนื่องจากเราไม่ต้องเก็บในครั้งละเท่า ๆ กันในทุกเดือนเหมือนตามบริษัทประกันสุขภาพเรียกเก็บ โดยเราสามารถออมเงินได้ตามความสะดวก เช่น เดือนนี้มีเงินมากก็เก็บมาก เดือนนี้มีน้อยเก็บน้อย ไม่ต้องกดดันตัวเองเมื่อถึงเวลาที่ต้องออมเงิน

  • มีเงินสำรองที่สามารถบริหารจัดการเองได้: หากยังไม่ถึงช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินเราสามารถนำเงินที่เก็บไว้ออกมาใช้ในเรื่องอื่น ๆ ที่มีความจำเป็นในช่วงนั้น ๆ ได้

  • สร้างนิสัยการออม: ทำให้เรามีนิสัยการออมที่ดีขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมกับสถานการณ์

ข้อเสียการออมเงิน

  • อาจเกิดปัญหาเงินไม่เพียงพอต่อค่ารักษา: หากค่ารักษาพยาบาลสูง และใช้เวลาในการรักษาตัวนาน เช่น โรคร้ายแรงหรือโรคเรื้อรัง อาจเกิดปัญหาเงินออมไม่เพียงพอ ทำให้จำเป็นต้องกู้ยืมเงิน ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง

  • ไม่สามารถนำค่ารักษาพยาบาลมาลดหย่อนภาษีได้: หากเราทำประกันสุขภาพ จะสามารถนำหลักฐานการทำประกันไปลดหย่อนภาษีประจำปีได้ แต่ถ้าเลือกวิธีออมเงินจะไม่สามารถทำได้

การทำประกันสุขภาพมีข้อดี - ข้อเสียอย่างไร
ข้อดีประกันสุขภาพ

  • ได้รับการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล: ประกันสุขภาพช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามกรมธรรม์ที่ประกันกำหนด ซึ่งอาจมากกว่าเบี้ยประกันที่เราจ่ายไป ทำให้เราเข้าถึงโรงพยาบาลได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการรักษาพยาบาล

  • แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย: เพราะมีการชำระเบี้ยประกันแบบรายเดือนหรือรายปีอยู่แล้ว เมื่อถึงคราวต้องใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาล ประกันสุขภาพจะคุ้มครองเรื่องค่าใช้จ่ายที่มีราคาสูงได้ ทำให้เราแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายไปได้มากทีเดียว

  • ความมั่นใจเมื่อถึงเวลาเจ็บป่วย: การมีประกันสุขภาพจะช่วยเพิ่มความมั่นใจเมื่อถึงยามเจ็บป่วยว่าจะได้รับการรักษาพยาบาลอย่างดีที่สุด

  • ได้รับเงินชดเชย: หากเราทำประกันสุขภาพที่มีการชดเชยรายได้เมื่อหยุดงานเมื่อถึงช่วงเวลาที่ต้องนอนโรงพยาบาล เราจะได้รับเงินชดเชยจากทางบริษัทประกันสุขภาพด้วย

  • ได้รับการลดหย่อนภาษี: สำหรับการทำประกันสุขภาพนั้นเราสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งถือว่าเป็นการวางแผนค่าใช้จ่ายที่ดี และสามารถประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้อีกมาก

ข้อเสียประกันสุขภาพ

  • มีค่าใช้จ่ายรายเดือนหรือรายปี: การทำประกันสุขภาพมีค่าใช้จ่ายรายเดือนหรือรายปีที่ต้องจ่าย ซึ่งอาจเป็นภาระทางการเงินในระยะยาวสำหรับบางคน

  • มีข้อจำกัดในการคุ้มครอง: ประกันสุขภาพอาจมีข้อจำกัดในการคุ้มครอง เช่น ระยะเวลาที่ต้องผ่านไปก่อนที่จะมีความคุ้มครองในบางโรค หรือข้อยกเว้นบางประการ เช่น โรคไมเกรน โรคเบาหวาน โรคความดัน หรือโรคที่เราเป็นมาก่อนทำประกันสุขภาพ

  • มีค่าใช้จ่ายตายตัว: การทำประกันสุขภาพส่วนมากจะเป็นการทำระยะยาว ซึ่งหากขาดสภาพคล่องทางการเงินในระยะเวลาที่มีการทำประกันอยู่ อาจทำการเงินของเราติดขัดได้

ออมเงินรักษาหรือซื้อประกันสุขภาพ เลือกทางไหนดี
การตัดสินใจระหว่างการออมเงินเพื่อรักษาหรือการซื้อประกันสุขภาพเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบและคำนึงถึงความต้องการของตนเองอย่างถี่ถ้วน พร้อมทั้งพิจารณาเพิ่มเติม ดังนี้

  • พิจารณาสภาพคล่องทางการเงินของเรา: พิจารณาถึงสภาพคล่องทางการเงินของเราว่ามีรายได้เพียงพอในการจ่ายค่าประกันสุขภาพในระยะยาวหรือไม่

  • มองถึงระยะยาว: มองในระยะยาวว่าเราพร้อมที่จะจ่ายเงินทำประกันสุขภาพทุกเดือนหรือไม่ หรือจะลองออมเงินไปก่อนสักระยะแล้วค่อยซื้อประกันสุขภาพแบบรายปีจะดีกว่า

  • ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ: หากยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกทางไหนดี ควรปรึกษาจากคนรอบข้างหรือผู้เชี่ยวชาญด้านประกันสุขภาพ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ

สุดท้ายนี้การเลือกทางออมเงินหรือซื้อประกันสุขภาพล้วนเป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น แต่ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความต้องการของเรา ว่าเราสะดวกแบบใดใช้วิธีไหนแล้วเราจะไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่องทางการเงิน ทั้งนี้ บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส พร้อมเป็นอีกหนึ่งตัวช่วย เพื่อให้คุณจัดสรรบริหารเรื่องการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรับมือกับเรื่องราวไม่คาดฝัน เช่น ค่ารักษาพยาบาลไม่เพียงพอ ค่าผ่าตัดกรณีฉุกเฉิน ฯลฯ เพื่อให้คุณจัดการเรื่องการเงินได้อย่างไม่มีสะดุด เช่น กดเงินสดดอกเบี้ย 0% นาน 30 วัน* หรือสมัครไว้แล้วไม่ได้กดเงินก็ไม่เสียดอกเบี้ยใด ๆ ทั้งสิ้น สำหรับใครที่สนใจสมัคร บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส สามารถสมัครได้ผ่านทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

*เพียงมียอดเบิกถอนเงินสดภายใน 30 วันหลังจากได้รับการอนุมัติ (เฉพาะยอดเบิกถอนภายในวันแรก สำหรับลูกค้าใหม่) หลังจบรายการส่งเสริมการขายอัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับเป็นอัตราดอกเบี้ย 19.8% - 25% ต่อปี, ดูเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ยูเมะพลัส, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว