ปัญหาเงินเดือนชนเดือน เป็นปัญหาที่มนุษย์เงินเดือนต้องเผชิญอยู่บ่อยครั้ง เพราะเมื่อรายรับไม่เพียงพอกับรายจ่าย ทำให้จำเป็นต้องใช้เงินแบบเดือนชนเดือน เฝ้ารอวันรับเงินเดือนงวดใหม่อยู่เสมอ ซึ่งถ้าคุณกำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็คงอยากได้วิธีช่วยแก้ปัญหา และหยุดวงจรการใช้เงินแบบเดือนชนเดือนได้จริง ๆ สักที ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องเริ่มจากการมีทักษะในการจัดการเงินที่ดีนั่นเอง

 

ทำไมมนุษย์เงินเดือนถึงต้องเจอปัญหาเงินเดือนชนเดือนอยู่เป็นประจำ

สาเหตุสำคัญที่ทำให้มนุษย์เงินเดือนต้องเผชิญกับปัญหาเงินเดือนชนเดือน มาจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น ขาดวินัยเรื่องการใช้เงิน มีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินเงินเดือนที่ได้รับ และไม่มีวินัยในการบริหารจัดการเงินอย่างจริงจัง จึงนำไปสู่ปัญหาเงินไม่พอใช้ในทุก ๆ เดือนได้ง่าย หากคุณไม่อยากเผชิญกับปัญหานี้อีกต่อไป ก็ต้องรู้จักวิธีบริหารจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในบทความนี้จะมาแนะนำ 5 วิธีจัดการเงินง่ายๆ ฉบับมนุษย์เงินเดือน ให้ทุกคนได้รู้จักและนำไปปรับใช้กันกัน

 

วิธีการจัดการเงินและการบริหารเงินเดือนให้มีประสิทธิภาพ

1. กำหนดงบประมาณ

การวางแผนงบประมาณถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ คุณควรบันทึกรายรับและรายจ่ายอย่างละเอียด เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมการใช้จ่ายของตนเองได้ดียิ่งขึ้น จะได้สามารถกำหนดงบประมาณที่เหมาะสมสำหรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่น ๆ ได้ โดยเริ่มจากการแบ่งสัดส่วนรายจ่ายให้ชัดเจน เช่น 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็นในแต่ละเดือน 30% สำหรับใช้จ่ายเพื่อสร้างความสุขให้ตัวเอง และ 20% สำหรับการออมไว้ใช้ยามฉุกเฉิน และยามเกษียณ

2. สร้างแผนการออม

การออมเงินเป็นหนึ่งในเส้นทางก้าวสู่ความมั่นคงทางการเงิน จากงบประมาณในข้อข้างต้น จะมีส่วนหนึ่งที่แยกไว้สำหรับการออมในทุก ๆ เดือน แม้คุณจะยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าในอนาคตจะใช้เงินออมไปกับอะไร ก็ควรออมอย่างสม่ำเสมอ แค่เพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแต่ละเดือน ก็สามารถช่วยสร้างความมั่งคั่ง และมั่นคงได้ในระยะยาว แถมยังช่วยฝึกให้คุณมีวินัย และควบคุมการใช้จ่ายได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

3. วางแผนการใช้จ่ายอย่างมีสติ

หลังจากกำหนดงบประมาณ และออมเงินแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อ คือ การวางแผนการใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ควรหมั่นพิจารณาว่ารายจ่ายใดจำเป็นหรือไม่จำเป็น เพื่อหาวิธีที่จะลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง เช่น ประหยัดค่าน้ำมันด้วยการวางแผนการเดินทาง ซื้อสินค้าในช่วงที่มีโปรโมชันพิเศษ และยกเลิกสัญญาหรือบริการที่ไม่ได้ใช้ นอกจากนี้ให้หลีกเลี่ยงการใช้จ่ายด้วยอารมณ์ และการตกเป็นทาสของสินค้าตามกระแส หรือสินค้าฟาสต์แฟชั่น ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นไปได้มาก

4. วางแผนการชำระหนี้

หากคุณมีหนี้สินอยู่ ให้จัดลำดับความสำคัญในการชำระหนี้ให้ดี โดยควรเริ่มต้นจากปลดหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดก่อน คู่ไปกับการตั้งเป้าหมายเรื่องระยะเวลาการชำระหนี้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ยให้น้อยที่สุด หากเป็นไปได้อาจพิจารณาหารายได้เสริมเพื่อนำมาชำระหนี้เพิ่มเติม เมื่อปลดภาระหนี้สินได้ คุณจะมีเงินคงเหลือมากขึ้นสำหรับใช้จ่าย หรือออมเงิน และสถานะทางการเงินของคุณก็จะไม่รัดตัวอย่างที่เคยเป็น

5. ตรวจสอบสถานะการเงินและปรับปรุงวิธีการใช้จ่ายอย่างสม่ำเสมอ

ควรหมั่นทบทวนสถานะการเงินของตนเองอยู่เป็นประจำ เพราะสถานการณ์ทางการเงินไม่ได้คงที่ตลอดไป จึงควรตรวจสอบอยู่เสมอว่างบประมาณค่าใช้จ่ายและเป้าหมายการออมยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่ หากพบว่ามีการใช้จ่ายเกินงบ หรือออมเงินได้ไม่ตรงตามเป้า จะได้แก้ไขได้ทันท่วงที เพื่อไม่ให้ลุกลามจนยากต่อการควบคุม และกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง หนักจนเกินแก้ เพื่อที่สุดท้ายคุณจะมีเส้นทางการเงินที่มั่นคงตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน

 

นอกจากวางแผนการเงินให้ดีแล้ว การมีสินเชื่อสำรองไว้ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน

การมีทักษะในการจัดการเงินที่ดี ต้องอาศัยวินัยและความมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก แต่เมื่อคุณทำได้สำเร็จ คุณจะได้ความมั่นคงทางการเงินเป็นรางวัลตอบแทน แน่นอนว่าถ้าคุณบริหารจัดการเรื่องเงินได้ดีขึ้นเท่าไหร่ จะยิ่งจบปัญหาเงินเดือนชนเดือนได้ไวขึ้นเท่านั้น หลังจากนี้จะได้ไม่ต้องมากังวลทุก ๆ สิ้นเดือนอย่างที่เคยเป็นมา

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ การมีสินเชื่อสำรองไว้ใช้ยามจำเป็นก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะบางครั้งก็อาจมีค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้วางแผนไว้ หรือมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเข้ามาในชีวิต ทำให้งบประมาณที่วางแผนไว้ต้องสะดุด หากไม่มีเงินสำรองไว้รองรับ อาจนำไปสู่การเกิดภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นการมีสินเชื่อสำรองไว้สักจำนวนหนึ่ง จะช่วยให้คุณมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีกว่า และสามารถรองรับสถานการณ์ไม่คาดฝันต่าง ๆ ได้

 

มีสินเชื่อเงินสดสำรองไว้ ใช้ชีวิตได้อุ่นใจกว่า

การมีสินเชื่อเงินสดสำรองไว้ อย่าง “บัตรกดเงินสด” ถือเป็นหนึ่งในวิธีการบริหารจัดการเงินที่ดี เพราะสถานการณ์ในชีวิตก็ยากที่จะคาดเดา วันใดวันหนึ่งคุณอาจมีความจำเป็นต้องใช้เงินสดกะทันหันก็ได้ บัตรกดเงินสดจึงเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่สามารถช่วยให้คุณบริหารจัดการเงินในแต่ละเดือนได้อย่างสะดวกมากขึ้นไม่ว่าจะเกิดเหตุใดก็ตาม

โดยเฉพาะ “บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส ที่ตอบโจทย์การมีสินเชื่อเงินสดสำรองไว้ใช้ยามจำเป็นได้เป็นอย่างดี เพราะคุณสามารถเบิกถอนเงินสดแบบออนไลน์ ผ่าน Umay+ Application ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% นานถึง 30 วัน* หรือสมัครไว้แล้วไม่ได้ใช้ก็ไม่เกิดค่าใช้จ่ายใด ๆ อีกด้วย แถมสมัครง่าย ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ช่วยให้คุณสามารถจัดการกับปัญหาการเงินต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และคล่องตัว

เมื่อมีสินเชื่อสำรองไว้ใช้ในยามจำเป็น ประกอบกับการจัดการและวางแผนการเงินอย่างมีระบบ คุณก็จะมั่นใจ และอุ่นใจในสถานภาพทางการเงินของตนเองมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องเผชิญกับปัญหาเงินเดือนชนเดือนอีกต่อไป พร้อมก้าวไปสู่เป้าหมายความมั่งคั่งและความมั่นคงได้อย่างแน่นอน

 

สำหรับใครที่สนใจสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส ก็สามารถสมัครได้ผ่านทางออนไลน์ที่  https://www.umayplus.com/cashcard/applyform ตลอด 24 ชั่วโมง

 

*เพียงมียอดเบิกถอนเงินสดภายใน 30 วันหลังจากได้รับการอนุมัติ (เฉพาะยอดเบิกถอนภายในวันแรก สำหรับลูกค้าใหม่) หลังจบรายการส่งเสริมการขายอัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับเป็นอัตราดอกเบี้ย 19.8% - 25% ต่อปี, ดูเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ยูเมะพลัส, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว