“หนี้” ถือเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ขวางกั้นเส้นทางสู่ความสำเร็จในชีวิตของหลาย ๆ คน เปรียบเสมือนกำแพงใหญ่คอยกั้นไม่ให้คุณก้าวไปข้างหน้าได้อย่างราบรื่น เพราะไม่ว่าคุณจะมีความฝันและเป้าหมายยิ่งใหญ่เพียงใด หนี้ก็มีพลังมากพอในการบั่นทอนกำลังใจ และฉุดคุณให้ห่างไกลจากจุดหมายปลายทางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หากคุณเป็นหนึ่งในจำนวนคนที่กำลังเผชิญกับปัญหาหนี้สินอยู่ บทความนี้จะมาช่วยให้คุณได้รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริง พร้อมเผยสูตรลับการวางแผนการเงินอย่างถูกต้อง เพื่อทำให้คุณสามารถปลดหนี้ได้ พร้อมก้าวเข้าสู่ชีวิตใหม่ที่สดใส ปราศจากภาระหนี้สินได้อย่างแท้จริง
หนี้คืออะไร? มีผลเสียอย่างไรถ้าไม่จัดการให้ดี
หนี้ หมายถึง ภาระผูกพันทางการเงินระหว่างบุคคลสองฝ่าย หรือบุคคลกับสถาบันการเงิน โดยฝ่ายหนึ่งเรียกว่า “เจ้าหนี้” ย่อมมีสิทธิจะเรียกให้ “ลูกหนี้” ชำระหนี้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การกู้ยืมเงิน การซื้อสินค้าหรือบริการเป็นเงินเชื่อ หรือแม้แต่การใช้สาธารณูปโภคต่าง ๆ ก็ถือเป็นหนี้ในความหมายหนึ่ง
ซึ่งการมีหนี้นั้น ก็ย่อมส่งผลกระทบในด้านลบต่อผู้เป็นหนี้หลายทาง เริ่มต้นตั้งแต่ความเครียดและความกดดันทางจิตใจ จากการที่ต้องแบกรับภาระในการผ่อนชำระและจ่ายดอกเบี้ยเป็นประจำทุกเดือน ยิ่งถ้าบางคนประสบปัญหาในการชำระหนี้ ไม่สามารถชำระได้ตามที่ตกลง ผู้เป็นหนี้ก็อาจจะต้องเผชิญกับการถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือถูกบังคับยึดทรัพย์สินไปเพื่อนำไปชำระหนี้ด้วย
นอกจากผลกระทบทางด้านจิตใจแล้ว ยังส่งผลกระทบอย่างมากต่อสถานะทางการเงินโดยรวม เพราะรายได้ส่วนหนึ่งจะต้องถูกนำไปใช้ผ่อนชำระหนี้ก่อน ทำให้ไม่เหลือเงินเก็บออมหรือนำไปลงทุนสร้างรายได้เสริม ซึ่งบางครั้งก็อาจทำให้เสียโอกาสในการสะสมความมั่งคั่งและขยายฐานะทางการเงินของตนเองได้
เมื่อการเป็นหนี้หนึ่งครั้ง สามารถส่งผลกระทบทั้งด้านจิตใจและเรื่องการเงินได้ ทำให้หลายคนพยายามที่จะหลีกเลี่ยง แต่บางคนก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ทัน และพลาดตกไปอยู่ในสภาวะที่เป็นหนี้ไปเสียแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ควรรีบหาวิธีการบริหารจัดการและวางแผนการเงินใหม่ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อปลดหนี้ออกไปจากตัวเองอย่างเร่งด่วน ไม่ให้ชีวิตของคุณต้องมาพบเจอกับสถานการณ์แบบนี้ และสามารถก้าวไปใช้ชีวิตในอนาคตที่ดีกว่าได้
สงสัยไหม? อะไรคือสาเหตุของการเป็นหนี้
หนี้อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ หลายปัจจัย ทั้งจากตัวของเราเอง จากเหตุการณ์ฉุกเฉินที่เราไม่อาจควบคุมได้ หรือแม้แต่ความประมาทเพียงเล็กน้อย ก็เป็นบ่อเกิดของการเป็นหนี้ได้ ดังนั้นการตระหนักรู้ถึงสาเหตุต่าง ๆ ของการเกิดหนี้ ก็จะช่วยให้คุณสามารถป้องกันหรือหลีกเลี่ยงหลุมพรางของการเป็นหนี้ได้ง่ายขึ้น โดยสาเหตุของการเกิดหนี้มีดังนี้
1. การวางแผนการเงินที่ผิดพลาด
การขาดการวางแผนทางการเงินที่ดี นับเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คนส่วนใหญ่ตกอยู่ในวังวนของหนี้สิน และไม่อาจหลุดพ้นได้สักที เช่น กู้ยืมเงินมากเกินความจำเป็น เพื่อซื้อสินค้าหรือบริการเกินกว่ากำลังทรัพย์ที่มีอยู่ ทำให้ไม่สามารถจ่ายคืนได้ รวมไปถึงการขาดการวางแผนการออมหรือลงทุนที่เหมาะสม ทำให้ไม่มีเงินเก็บ หรือเงินสำรองฉุกเฉินไว้ใช้ในยามจำเป็น
2. เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
เพราะชีวิตมนุษย์ย่อมมีเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ล่วงหน้าเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยฉุกเฉิน อุบัติเหตุ หรือภัยพิบัติต่าง ๆ ที่อาจนำไปสู่ความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อรักษาพยาบาล หรือซ่อมแซมทรัพย์สินที่เสียหายจากอุบัติเหตุหรือภัยพิบัติต่าง ๆ ทำให้ต้องพึ่งพาแหล่งเงินกู้ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดหนี้ในอนาคต
3. การใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นมากเกินไป
พฤติกรรมการใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย ฟุ่มเฟือย และไม่ได้วางแผนการใช้จ่ายให้ดี ก็นับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญของการเกิดหนี้ เพราะหลายคนมักชอบใช้จ่ายเงินไปกับสิ่งของฟุ่มเฟือยหรือกิจกรรมที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น การซื้อของแบรนด์เนมราคาแพง การไปท่องเที่ยวต่างประเทศบ่อยครั้ง เป็นต้น จนทำให้รายจ่ายสูงกว่ารายได้ที่มีอยู่ และเกิดหนี้ในที่สุด
“หนี้” เปรียบเสมือน “ไฟ” หากควบคุมได้จะไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย แต่ถ้าหากควบคุมไม่ได้ ก็อาจลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่โตได้นั่นเอง ยิ่งถ้าขาดการวางแผนการเงินที่ดี ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้ได้ ดังนั้นการมีวินัยทางการเงินจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก คุณต้องมีแผนการเงินที่ดี ไปพร้อม ๆ กับควบคุมการใช้จ่ายให้ได้ โดยการใช้จ่ายอย่างประหยัดและรอบคอบ เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในวังวนหนี้สินที่ยากจะหลุดพ้น
“หนี้” ภาระชีวิตที่จัดการได้ แค่เปลี่ยนพฤติกรรมและมีแผนการเงินที่ดี
แม้การมีหนี้ จะก่อให้เกิดความเครียดและความวิตกกังวล คล้ายกับโซ่ตรวนที่ล่ามชีวิตของคุณไม่ให้ก้าวหน้าไปไหน แต่อย่าเพิ่งท้อใจไป เพราะหนี้สามารถจัดการได้ เพียงแค่ต้องเริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง ไปพร้อม ๆ กับการวางแผนทางการเงินให้ดีขึ้น โดยสามารถทำได้ดังนี้
1. เริ่มต้นจากเปลี่ยนพฤติกรรม เพราะวินัยคือพลัง
· ใช้จ่ายอย่างมีสติ : การจะซื้อของแต่ละอย่าง ควรวางแผนให้รอบคอบก่อน เพื่อคำนึงถึงความจำเป็น ก่อนซื้อก็ให้เปรียบเทียบราคาทุกครั้ง ถ้าเป็นไปได้ให้หลีกเลี่ยงการซื้อของชิ้นใหญ่ หรือราคาแพงโดยไม่จำเป็น ไม่ซื้อของตามกระแส หรืออีกหนึ่งวิธีคือเมื่อไปซื้อของให้พกเงินสดไป จะได้ควบคุมจำนวนเงินที่ใช้จ่าย ไม่เผลอใช้บัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตจนเกินวงเงิน
· ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น : เริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ทำอาหารทานเอง พกน้ำดื่ม งดสั่งอาหารเดลิเวอรี่ ไปพร้อม ๆ กับหาทางลดค่าใช้จ่ายรายเดือน เช่น เปลี่ยนแพ็กเกจมือถือ อินเทอร์เน็ต ไปจนถึงปิดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า เมื่อไม่ใช้งาน
· หาเงินเพิ่มจากช่องทางอื่น ๆ : นอกจากงานประจำแล้ว ถ้าหางานเสริมทำก็จะช่วยให้คุณมีเงินเพิ่มได้ เช่น อาจจะรับจ้างฟรีแลนซ์ ขายของออนไลน์ สอนพิเศษ หรือศึกษาหาความรู้เรื่องการลงทุน เพื่อจะได้เลือกช่องทางการลงทุนที่เหมาะสม และสามารถสร้างเงินเพิ่มได้ในอนาคต
2. วางแผนการเงินใหม่
· บันทึกรายรับรายจ่าย : ในทุก ๆ การใช้จ่าย ให้จดบันทึกให้ครบ ลงสมุดบัญชีหรือแอปพลิเคชัน แล้วให้แยกประเภทรายรับ รายจ่าย ให้ชัดเจน เช่น เงินเดือน รายได้เสริม ค่าใช้จ่ายประจำ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพื่อทุก ๆ สิ้นเดือน จะได้มาวิเคราะห์ได้ว่าเงินของเราหายไปกับอะไร ใช้จ่ายอะไรไปมากน้อยแค่ไหน มีรายการที่ฟุ่มเฟือยหรือไม่จำเป็นบ้างหรือเปล่า จะได้แก้ไขให้ดีขึ้นได้ในอนาคต
· ตั้งเป้าหมายทางการเงิน : กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและท้าทาย เช่น จะเก็บเงินดาวน์บ้าน ซื้อรถ ไปเที่ยวต่างประเทศ หรือเก็บเงินไว้ในยามเกษียณให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบาย เมื่อตั้งเป้าหมายได้แล้ว ให้แบ่งเป้าหมายเหล่านั้น ออกเป็นเป้าหมายระยะสั้น ระยะยาว แล้วค่อย ๆ เช็กลิสต์ไปเรื่อย ๆ คุณจะได้รู้สึกมีกำลังใจในการไปสู่เป้าหมายใหญ่ที่ตั้งไว้ได้ แต่ต้องไม่ลืมว่าเป้าหมายที่ตั้งนั้น จะต้องเป็นไปได้ และสอดคล้องกับความสามารถและรายได้ของคุณด้วย
· จัดสรรเงินออมให้ดี : เมื่อได้รับเงินเดือนแล้ว ควรแยกส่วนหนึ่งออกมาเก็บออม โดยกำหนดเปอร์เซ็นต์การออมที่เหมาะสม เช่น 10% - 30% ของรายได้ ไว้เผื่ออนาคตและในยามเกิดเหตุฉุกเฉิน
· วางแผนชำระหนี้ : ลิสต์รายการหนี้ทั้งหมด ระบุจำนวนเงิน ดอกเบี้ย และระยะเวลาการผ่อนชำระ แล้วเรียงลำดับความสำคัญ ทางที่ดีให้เริ่มจ่ายหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงก่อน ทั้งนี้ควรตั้งเป้าหมายระยะสั้นควบคู่ไปด้วย เช่น ชำระหนี้ก้อนหนึ่งให้หมดไปก่อน จะได้สร้างกำลังใจได้ ที่สำคัญต้องไม่ลืมเตรียมแผนสำรองเผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น สูญเสียงาน หรือป่วยหนัก
วินัยก็มี แผนการเงินที่ดีก็มี อีกอย่างที่สำคัญคือตัวช่วยทางการเงินที่เหมาะสม
การมีตัวช่วยทางการเงินที่ดีและเหมาะสม จะช่วยให้คุณสามารถจัดการหนี้ได้อย่างง่ายขึ้นและเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน โดยหนึ่งในตัวช่วยที่น่าสนใจ คือ “บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส” หนึ่งในตัวช่วยทางการเงินที่ทำให้คุณมีเงินสดสำรองสำหรับการใช้จ่ายในยามจำเป็น หากเกิดเหตุไม่คาดฝันก็สามารถกดเงินสดสำรองผ่านตู้ ATM หรือผ่าน Umay+ Application ที่ใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% นานถึง 30 วัน* หรือสมัครไว้แล้วไม่ได้ใช้ก็ไม่เกิดค่าใช้จ่ายใด ๆ
นอกจากนี้ “บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส” ยังมาพร้อมกับโปรโมชันสุดพิเศษ ผ่อน 0% นานสูงสุด 20 เดือน** (ขึ้นอยู่กับร้านค้าและโปรโมชันในแต่ละช่วงเวลา) ช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเงินก้อนใหญ่ในการใช้จ่าย ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้คุณได้อีกด้วย
จำไว้ว่า “การเงินที่ดี เริ่มต้นที่ตัวเรา” มาวางแผนการเงิน ด้วยการใช้จ่ายอย่างมีสติ มีวินัย และต้องไม่ลืมที่จะมีตัวช่วยทางการเงินที่เหมาะสมอย่าง “บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส” เพียงเท่านี้ คุณก็จะสามารถจัดการหนี้ และสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับตัวเองได้แล้ว
สนใจสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส สมัครง่ายผ่านทางออนไลน์ https://www.umayplus.com/cashcard/applyform ตลอด 24 ชั่วโมง
หมายเหตุ
*เพียงมียอดเบิกถอนเงินสดภายใน 30 วันหลังจากได้รับการอนุมัติ (เฉพาะยอดเบิกถอนภายในวันแรก สำหรับลูกค้าใหม่) หลังจบรายการส่งเสริมการขายอัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับเป็นอัตราดอกเบี้ย 19.8% - 25% ต่อปี
**อัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อผ่อนชำระ 16.44% - 25% ต่อปี, ดูเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ยูเมะพลัส, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว