
การมีบ้านเป็นของตัวเองนั้น มักจะมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายหลายอย่าง โดยเฉพาะค่าไฟรายเดือนที่ทำให้ต้องหนักใจอยู่ไม่น้อย ยิ่งค่าไฟมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บิลค่าไฟก็กลายเป็นเรื่องน่ากังวล ซึ่งไม่เพียงแค่เป็นภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องเผชิญอยู่ทุกเดือน แต่ยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทำให้ปัญหาโลกร้อนทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
แต่รู้หรือไม่ ว่าแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำเพียงเล็กน้อย ก็สามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าลงได้แล้ว นอกจากจะช่วยเซฟเงินในกระเป๋า ยังได้ช่วยเซฟโลกและสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กันได้อีกด้วย!
10 เคล็ดลับ "ช็อต" ค่าไฟให้ "ดับ" วูบ!
หากคุณกำลังมองหาวิธีที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายเรื่องค่าไฟฟ้าลงได้ บทความนี้มี 10 เคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณบอกลาค่าไฟแพงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เซฟทั้งค่าใช้จ่ายและโลกใบนี้ไปพร้อมกัน บอกเลยไม่ว่าใครก็ทำได้จริง แค่ลองนำไปปรับใช้ มาดูกันว่าจะมีเคล็ดลับอะไรบ้าง!
1. ปรับแอร์ให้เหมาะ รู้จักใช้ฟังก์ชันให้คุ้ม
บ้านไหนที่มีแอร์ให้เปิดเท่าที่จำเป็นและควรตั้งอุณภูมิที่พอเหมาะที่ 25 องศาก็พอ หรือก่อนเปิดแอร์ให้เปิดพัดลมไล่ความร้อนออกไปจากห้องก่อน แอร์จะได้ทำงานน้อยลง หรือลองตั้งเวลาปิดแอร์ก่อนตื่นนอน 1 ชม. แค่นี้ก็จะช่วยลดการใช้งานแอร์ไปได้มากและช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกด้วย
2. ติดอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันความร้อนเข้ามาในบ้าน
มาเปลี่ยนบ้านให้เย็นขึ้นด้วยการติดฟิล์มกันแดด ม่านกันความร้อน หรือม่านที่ช่วยสะท้อนรังสียูวี (UV) เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้ห้องต่าง ๆ ไม่ร้อนจนเกินไป และเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภททำความเย็นก็จะไม่ทำงานหนักเกินไปจนทำให้เปลืองไฟอีกด้วย หรืออาจติดตั้งฉนวนกันความร้อน หรือแผ่นสะท้อนความร้อนไว้ใต้หลังคา หรือเหนือฝ้าเพดานก็จะช่วยกั้นความร้อนจากหลังคาได้อีกทางเช่นกัน
3. เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน (LED)
หลอดไฟเป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญ เพราะจำเป็นต้องติดตั้งไว้ทั่วบ้าน ดังนั้นหากเลือกให้ดี ก็จะช่วยลดค่าไฟและประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มาก ซึ่งหลอดไฟที่ราคาไม่แพง แต่คุ้มค่า ก็คงหนีไม่พ้นหลอดไฟแอลอีดี (LED) เพราะสามารถช่วยประหยัดพลังงานได้มากถึง 80% และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 15,000 ชม. นอกจากนี้ยังให้แสงสว่างที่ชัดเจนอีกด้วย
4. ท่องไว้ให้ขึ้นใจ “ปิด” ทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน
วิธีสุดเบสิกที่จะช่วยประหยัดไฟและลดค่าไฟได้จริง คือ การปิดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ หรืออื่น ๆ ที่ไม่ได้ใช้งาน ลองเปลี่ยนพฤติกรรมสักนิด นอกจากจะช่วยลดค่าไฟได้แล้ว ยังช่วยลดโลกร้อนและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้
5. ถอดปลั๊กได้ให้ถอด อย่าเสียบทิ้งไว้
ทุกครั้งที่ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสร็จแล้วให้ถอดปลั๊กออกเพื่อตัดกระแสไฟฟ้าทุกครั้ง เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าในปัจจุบัน สามารถสั่งการได้จากระยะไกล ถ้าไม่ถอดปลั๊กอุปกรณ์จะยังสแตนด์บายเพื่อรอรับคำสั่งและกินไฟไปเรื่อย ๆ ดังนั้นการถอดปลั๊กจะช่วยประหยัดไฟได้มากกว่า แถมยังป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรด้วย
6. จัดตู้เย็นให้เป็นระเบียบ ไม่ตุนของมากเกินไป
รู้หรือไม่ว่าการใส่ของในตู้เย็นมากเกินไปตู้เย็นจะกินไฟเป็นอย่างมาก เพราะต้องกระจายความเย็นให้ทั่วถึงตลอดเวลา ดังนั้นการจัดระเบียบตู้เย็น เคลียร์ของเก่าในตู้ออก ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยประหยัดไฟได้ แถมยังหยิบจับหาของได้ง่าย ไม่เสียเวลาเปิดตู้เย็นนาน ช่วยรักษาอุณหภูมิได้ดีโดยที่ตู้เย็นไม่ต้องทำงานหนักนั่นเอง
7. เปลี่ยนพฤติกรรมการซักผ้า และรีดผ้าให้เหมาะสม
ลองปรับพฤติกรรมการซักผ้าและรีดผ้าสักนิด โดยการซักหนึ่งครั้งควรมีปริมาณผ้าที่พอดีกับความจุของถังซัก ไม่อัดแน่นจนล้น แต่ก็ต้องไม่น้อยจนต้องซักบ่อย ๆ ให้เปลืองน้ำเปลืองไฟ และเมื่อต้องรีดผ้าก็ให้รวมมารีดทีเดียวเยอะ ๆ และให้เลือกรีดจากผ้าที่รีดยากก่อน เมื่อผ้าใกล้หมดกองให้ถอดปลั๊ก แล้วใช้ความร้อนที่เหลือรีดผ้าง่าย ๆ เบา ๆ เพราะเตารีดนี่แหละที่ใช้แค่ครู่เดียวก็กินไฟมหาศาลแล้ว
8. ถ้ามีทุน ให้พิจารณาติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อประหยัดค่าไฟในระยะยาว
การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา เป็นหนึ่งในวิธีช่วยประหยัดไฟ และช่วยลดค่าไฟได้ในระยะยาวมากกว่า 10 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในทางที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโลกร้อนได้จริง แต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องแลกมากับค่าใช้จ่ายที่สูงเช่นกัน แต่รับรองว่าคุ้มค่าต่อการลงทุนอย่างแน่นอน
9. เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าเกิน 5 ปี เป็นไปได้ต้องโบกมือลา
การใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอายุเกิน 5 ปี ระบบการทำงานบางอย่างของเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นอาจต้องทำงานหนักขึ้น ทำให้ต้องเพิ่มกำลังของไฟฟ้า ซึ่งส่งผลให้ค่าไฟสูงขึ้นตามการใช้งาน ดังนั้นหากเป็นไปได้ควรบอกลาเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า และเปลี่ยนเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ ๆ ที่อาจจะช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าเครื่องเก่าที่ใช้อยู่
10. เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ทั้งที ต้องมีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
หากต้องเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ ให้ลองสังเกต “ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว” ก่อน นี่แหละวิธีที่จะช่วยประหยัดไฟได้ในระยะยาว เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว แปลว่าผ่านการทดสอบแล้วว่าประหยัดพลังงานตามมาตรฐานที่ กฟผ. และกระทรวงพลังงานกำหนด ดังนี้
- มีตัวเลขและดาวบอกระดับประสิทธิภาพพลังงานที่ได้รับ ยิ่งเลขมากและดาวมาก ก็จะยิ่งช่วยประหยัดไฟมาก
- มีการบอกประเภทของผลิตภัณฑ์ และแสดงข้อมูลยี่ห้อ รุ่น ขนาด ของผลิตภัณฑ์
- มีการแสดงค่าไฟฟ้าที่ใช้ต่อปี ซึ่งสามารถเปรียบเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ได้ด้วยตัวเอง ทำให้สามารถประมาณการและคำนวณค่าใช้จ่ายรายปีล่วงหน้าได้
- มีการแสดงค่าประสิทธิภาพ สามารถใช้เปรียบเทียบกับรุ่นที่มีขนาดใกล้เคียงกันได้ก่อนการเลือกซื้อ
- แสดงเว็บไซต์โครงการประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ซึ่งเป็นข้อมูลของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรองรับ สามารถตรวจเช็กก่อนการซื้อได้
แม้จะรู้ 10 เคล็ดลับ แต่ต้องไม่ลืมตรวจเช็กมิเตอร์ไฟ
นอกจากวิธีการประหยัดไฟที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ต้องไม่ลืมตรวจสอบและติดตามการใช้ไฟในบ้าน เพื่อป้องกันปัญหาการสูญเสียพลังงานโดยเปล่าประโยชน์ โดยหนึ่งในสิ่งที่ควรให้ความสนใจ คือ การตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้าเป็นประจำ เพราะจะทำให้เรารู้ถึงจำนวนไฟที่ใช้ไปในแต่ละรอบเดือนว่าเพิ่มขึ้นหรือลดลงเท่าไหร่ หากพบว่ามากขึ้นแบบผิดปกติ ให้รีบเช็กว่ามีการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าจากอุปกรณ์ใดหรือมิเตอร์ไฟฟ้ามีความผิดปกติ-ชำรุด ก็จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงทีและช่วยลดปัญหาค่าไฟสูงเกินจำเป็นได้
Umay+ ตัวช่วยทางการเงินที่ดี พร้อมโปรโมชัน ผ่อน 0% นาน 20 เดือน!*
สำหรับใครที่กำลังวางแผนว่าจะเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า หรือกำลังมองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ที่ช่วยประหยัดไฟได้มากขึ้น และต้องการตัวช่วยทางการเงิน ขอแนะนำ “บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส” ตัวช่วยทางการเงินที่มาพร้อมโปรโมชันสุดพิเศษ ผ่อน 0% นาน 20 เดือน* (ขึ้นอยู่กับร้านค้าและโปรโมชันในแต่ละช่วงเวลา) ทำให้คุณไม่ต้องเสียเงินก้อนใหญ่ในการใช้จ่าย แถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย และช่วยประหยัดค่าไฟในระยะยาวได้
หากใครอยากมีบัตรกดเงินสดยูเมะพลัสไว้สำหรับใช้ส่วนตัว ก็ถือว่าเป็นบัตรที่คุ้มค่า ที่จะช่วยให้คุณอุ่นใจเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน สามารถสั่งเงินโอนเข้าบัญชีได้ 24 ชม. ที่ Umay+ Application หรือกดเงินสดสำรองผ่านตู้ ATM ที่ร่วมรายการได้ทั่วประเทศ ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% นานถึง 30 วัน** สมัครไว้แล้วไม่ได้ใช้ก็ไม่เกิดค่าใช้จ่ายใด ๆ นอกจากนี้ยังสามารถรับสิทธิประโยชน์มากมาย สมัครง่าย สมัครผ่านทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชม. ที่ https://www.umayplus.com/cashcard/applyform
*อัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อผ่อนชำระ 16.44% - 25% ต่อปี
**เพียงมียอดเบิกถอนเงินสดภายใน 30 วัน หลังจากได้รับการอนุมัติ (เฉพาะยอดเบิกถอนภายในวันแรก สำหรับลูกค้าใหม่) หลังจบรายการส่งเสริมการขายอัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับเป็นอัตราดอกเบี้ย 19.8% - 25% ต่อปี, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว, ดูเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ยูเมะพลัส