หากกำลังเบื่อหน่ายกับชีวิตประจำวันอันจำเจ จากการทำงานซ้ำ ๆ และสภาพแวดล้อมเดิม ๆ ที่คุ้นชินแล้วล่ะก็ ถึงเวลาที่ควรออกผจญภัยกับ 3 กิจกรรมแอดเวนเจอร์สุดมันที่เราจะแนะนำ เพราะประสบการณ์เหล่านี้จะเติมเต็มชีวิตคุณด้วยความตื่นเต้นและความท้าทายใหม่ ๆ เพราะไม่เพียงช่วยคลายความเครียดและเบื่อหน่ายที่สะสมมาจากงานประจำ แต่ยังช่วยฝึกและเสริมสร้างทักษะ ความอดทน และกำลังใจอีกด้วย

การลองผจญภัยกับกิจกรรมแปลกใหม่ จะเปิดโอกาสให้ได้สัมผัสกับประสบการณ์ชีวิตในแบบที่หาได้ยาก พบเจอสถานที่และสิ่งแวดล้อมแปลกตา รวมถึงเข้าร่วมสังคมและเรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ ๆ นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มพูนความท้าทายและความตื่นเต้นให้กับชีวิตของคุณ ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและพลังในการมุ่งมั่นให้บรรลุเป้าหมาย รวมทั้งเสริมสร้างทัศนคติในการเผชิญหน้ากับอุปสรรคต่าง ๆ อย่างมั่นใจและกล้าหาญยิ่งขึ้น

ดังนั้น หากต้องการสร้างเสริมประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง พัฒนาศักยภาพและขยายขอบเขตของชีวิต ควรลองออกผจญภัยกับ 3 กิจกรรมแอดเวนเจอร์สุดมันที่จะยกระดับทั้งร่างกายและจิตใจให้แข็งแกร่งขึ้นแบบที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อนดังต่อไปนี้

1. ปีนหน้าผา (Rock Climbing)

กิจกรรมแอดเวนเจอร์แรกที่หลายคนผ่านตามาไม่น้อย คือการปีนหน้าผา ลองจินตนาการถึงแนวผาสูงชันสง่างามที่ราวกับมีพลังเรียกร้องให้มาท้าทาย เป็นภาพที่ปลุกความเร้าใจสำหรับนักผจญภัยทุกคน การปีนหน้าผาจึงกลายเป็นหนึ่งในกิจกรรมสุดคลาสสิกที่ทดสอบขีดจำกัดของร่างกายและจิตใจอย่างแท้จริง ไม่เพียงต้องอาศัยแรงกาย แต่ยังต้องมีสมาธิ ความอดทน และความกล้าหาญอีกด้วย

ประเภทของการปีนหน้าผา

การปีนหน้าผาสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

  • ปีนหน้าผาธรรมชาติ: ปีนป่ายบนหน้าผาหินจริง เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์และมีความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมธรรมชาติ
  • ปีนหน้าผาจำลอง: ปีนป่ายบนผนังเทียมที่สร้างขึ้นในร่ม เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ที่ต้องการฝึกฝนทักษะ

อุปกรณ์ที่ใช้ในการปีนผา

  • รองเท้าปีนผา: ช่วยให้เกาะหน้าผาได้ดี
  • ชอล์ก: ช่วยดูดซับเหงื่อ เพิ่มแรงเสียดทาน
  • เข็มขัดนิรภัย: ป้องกันอันตรายหากมีการผิดพลาด
  • อุปกรณ์ป้องกัน: เช่น หมวกกันน็อก ถุงมือ

สถานที่ปีนผาในประเทศไทย

  • Climb Central Bangkok: ยิมปีนผาในร่มที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ
  • Stone Goat Climbing Gym: ยิมปีนผาใจกลางสุขุมวิท
  • Rock Domain Climbing Gym: ยิมปีนผาที่มีผนังหลากหลายรูปแบบ
  • หน้าผาจำลอง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต): หน้าผาจำลองขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับฝึกฝนทักษะ
  • ผาหินงาม: แหล่งปีนผาธรรมชาติที่โด่งดังในจังหวัดกาญจนบุรี

ข้อควรระวัง

  • เลือกสถานที่ปีนผาที่ได้มาตรฐาน มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย
  • ศึกษาเทคนิคการปีนผาอย่างถูกต้อง
  • ฝึกฝนทักษะอย่างสม่ำเสมอ
  • ปีนผาด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท

อย่างไรก็ตาม ก่อนจะก้าวไปสู่การปีนหน้าผานั้น จำเป็นต้องศึกษาเทคนิคปีนผาและข้อควรปฏิบัติต่าง ๆ จากผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียด เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจในการปีน นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์นิรภัยอย่างเคร่งครัด รวมถึงไม่ควรปีนผาในระดับที่เกินความสามารถของตนเอง เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น การคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ปีนได้สัมผัสกับประสบการณ์แอดเวนเจอร์อย่างปลอดภัยและเต็มไปด้วยอะดรีนาลีนที่ท่วมท้น

2. กระโดดร่ม (Skydiving)

กิจกรรมแอดเวนเจอร์สุดมันที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน จะมอบประสบการณ์สุดตราตรึงอยู่ในความทรงจำไปอีกนาน การกระโดดร่มคือการผจญภัยสุดขีด ที่จะพาไปสัมผัสกับอารมณ์หวาดเสียวตื่นเต้นอย่างบรรยายไม่ถูกเลยทีเดียว ช่วงเวลาเพียงไม่กี่วินาทีจากการกระโดดร่ม แรงดึงดูดจากแรงโน้มถ่วงของโลกจะสร้างความหวาดหวั่นได้ไม่เบาแต่นั่นก็ยังไม่ใช่ที่สุด เมื่อเปรียบกับความรู้สึกเมื่อได้ร่อนลงสู่พื้นดินอย่างช้า ๆ พร้อมชมวิวสวยงามของวิวทิวทัศน์จากมุมสูงอย่างใกล้ชิด ได้เห็นขอบฟ้าอันกว้างใหญ่สุดสายตา และอาจเห็นแม้กระทั่งเส้นโค้งของท้องฟ้าไกลสุดลูกหูลูกตา ประสบการณ์เหนือชั้นครั้งนี้หาได้ยากมากจากกิจกรรมอื่น ๆ

ประเภทของการกระโดดร่ม

Tandem Skydiving

  • เหมาะสำหรับมือใหม่ ไม่ต้องมีประสบการณ์มาก่อน
  • กระโดดร่มพร้อมกับครูฝึก โดยครูฝึกจะควบคุมร่มชูชีพให้
  • ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที

Solo Skydiving

  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ผ่านการฝึกอบรมมาแล้ว
  • กระโดดร่มด้วยตัวเอง ควบคุมร่มชูชีพเอง
  • ใช้เวลาประมาณ 3-5 นาที

Static Line Jump

  • เหมาะสำหรับมือใหม่ ไม่ต้องมีประสบการณ์มาก่อน
  • กระโดดร่มโดยใช้เชือกสลิงที่ผูกไว้กับเครื่องบิน ครูฝึกจะดึงเชือกเพื่อกางร่มชูชีพ
  • ใช้เวลาประมาณ 3-5 นาที

Accelerated Freefall (AFF)

  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้การกระโดดร่มแบบมืออาชีพ
  • ฝึกฝนทักษะการกระโดดร่ม การควบคุมร่มชูชีพ และการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน
  • ใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน

BASE Jumping

  • เป็นการกระโดดร่มจากสิ่งปลูกสร้าง หน้าผา หรือวัตถุสูงๆ
  • มีความเสี่ยงสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์และทักษะที่สูง

Wingsuit Flying

  • กระโดดร่มโดยใช้ชุดวิงสูท ช่วยให้บินได้ไกลและควบคุมทิศทางได้อย่างอิสระ
  • มีความเสี่ยงสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์และทักษะที่สูง

อุปกรณ์ที่ใช้ในการกระโดดร่ม

  • ชุดกระโดดร่ม: ช่วยให้ร่างกายกระชับ คล่องตัว และลดแรงต้านทานอากาศ
  • หมวกกันน็อก: ป้องกันอันตรายจากการกระแทก
  • แว่นตา: ป้องกันดวงตาจากลม ฝุ่น และแมลง
  • ถุงมือ: ป้องกันมือจากการเสียดสี
  • รองเท้าบู๊ท: ป้องกันเท้าจากการกระแทก
  • อุปกรณ์วัดความสูง: บอกความสูงจากพื้นดิน
  • อุปกรณ์สื่อสาร: สื่อสารกับครูฝึก

สถานที่กระโดดร่มในประเทศไทย

  • Thai Sky Adventures: จังหวัดชลบุรี อำเภอเมืองพัทยา
  • Skydive Thailand: จังหวัดนครราชสีมา อำเภอปากช่อง
  • ดรอปโซน ไทยแลนด์: จังหวัดระยอง อำเภอแกลง
  • Skydive Chiang Mai: จังหวัดเชียงใหม่

ควรติดต่อแต่ละสถานที่ก่อนเข้ารับบบริการและศึกษาประเภทก่อนตัดสินใจเล่นกิจกรรมนี้

ข้อควรระวัง

  • เลือกสถานที่และบริษัทที่ได้มาตรฐาน มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
  • ตรวจสอบสภาพร่างกายให้พร้อม
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของครูฝึกอย่างเคร่งครัด
  • สวมใส่เสื้อผ้าและอุปกรณ์ป้องกันอย่างครบถ้วน

นับเป็นกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นและประทับใจอย่างยิ่งหากมีความพร้อมและเตรียมตัวอย่างรอบคอบ การกระโดดร่มลงมาจากท้องฟ้าคือการเปิดประสบการณ์ชีวิตอันน่าจดจำ ด้วยความรู้สึกสดชื่นแปลกใหม่และความตื่นเต้น การกระโดดร่มจึงเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดสำหรับคนที่มองหากิจกรรมที่ก้าวข้ามขอบจำกัดเดิม ๆ ของตัวเอง

3. เดินป่าศึกษาธรรมชาติ (Trekking)

หากใครกำลังมองหากิจกรรมที่จะพาหนีความวุ่นวายจากชีวิตในเมืองและสัมผัสกับความงดงามอันบริสุทธิ์ของธรรมชาติ การเดินป่าศึกษาธรรมชาติคงจะเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบ เพราะเมื่อก้าวเท้าเข้าสู่ป่าลึกนั้น บรรยากาศเงียบสงบที่ปกคลุมรอบตัว พร้อมกลิ่นอายหอมเย็นของธรรมชาติ ตลอดเส้นทางเดิน เราจะได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์มากมายที่ซ่อนอยู่ในผืนป่า ไม่ว่าจะเป็นพรรณไม้นานาชนิด สัตว์ป่า และสายน้ำธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้สัมผัสกับวิถีชีวิตดั้งเดิมของชนเผ่าพื้นเมือง ซึ่งจะเป็นประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่น่าประทับใจไม่รู้ลืม

สำหรับคนไทย เราโชคดีที่มีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติให้ได้เลือกสำรวจมากมายทั่วประเทศ มีทั้งเส้นทางเดินป่าระยะสั้นและระยะไกลให้เลือกเดินตามความต้องการ เหมาะสม ถือเป็นเรื่องดีสำหรับคนชอบสำรวจสิ่งใหม่ ๆ และปรารถนาประสบการณ์การใกล้ชิดธรรมชาติอย่างแท้จริง

อุปกรณ์ที่ใช้ในการเดินป่าศึกษาธรรมชาติ

  • รองเท้าเดินป่า: รองเท้าเดินป่าที่ดีควรมีดอกยางที่แข็งแรง รองรับข้อเท้า และกันน้ำ
  • เสื้อผ้า: เสื้อผ้าควรเหมาะกับสภาพอากาศ ใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี และกันแดด
  • น้ำ: พกน้ำดื่มให้เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอากาศร้อน
  • อาหาร: พกอาหารว่างหรืออาหารกลางวัน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการเดินป่า
  • ครีมกันแดด: ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 หรือสูงกว่า สวมหมวก และใส่แว่นกันแดด
  • ยา: พกยาประจำตัว ยาแก้ปวด ยาแก้แพ้ และยาแก้ท้องเสีย
  • ไฟฉาย: พกไฟฉายสำหรับเดินป่าในตอนเย็นหรือตอนกลางคืน
  • อุปกรณ์ปฐมพยาบาล: พกอุปกรณ์ปฐมพยาบาลสำหรับการรักษาบาดแผลเล็กน้อย

สถานที่เดินป่าศึกษาธรรมชาติในประเทศไทย

  • ดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ - เป็นภูเขาสูงอันดับ 3 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เส้นทาง Trekking บนดอยหลวงเชียงดาวมีความยากระดับปานกลาง เหมาะสำหรับนักเดินป่าที่มีประสบการณ์บ้างแล้ว ระยะทางไป-กลับประมาณ 16 กิโลเมตร
  • ภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ - เป็นภูเขาสูงอันดับ 4 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ เส้นทาง Trekking บนภูสอยดาวมีความยากระดับง่าย เหมาะสำหรับนักเดินป่าทุกระดับ
  • ภูกระดึง จังหวัดเลย - นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าขึ้นไปยังยอดเขาภูกระดึงเพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เส้นทาง Trekking บนภูกระดึงมีความยากในระดับง่าย เหมาะสำหรับนักเดินป่าทุกระดับ ระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร
  • เขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช - เป็นเทือกเขาที่สูงที่สุดในภาคใต้ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช เส้นทาง Trekking บนเขาหลวงมีระดับความยากปานกลาง เหมาะสำหรับนักเดินป่าที่มีประสบการณ์บ้างแล้ว ระยะทางสูงสุดประมาณ 30 กิโลเมตร (มีหลายเส้นทางให้เลือกเดิน)

ข้อควรระวังสำหรับการเดินป่าศึกษาธรรมชาติ

  • แจ้งแผนการเดินทางให้ผู้อื่นทราบ: แจ้งแผนการเดินทางให้ผู้อื่นทราบ บอกเส้นทางที่คุณจะไป ระยะเวลาที่คาดว่าจะกลับ และเบอร์โทรศัพท์
  • เดินป่ากับผู้อื่น: ไม่ควรเดินป่าคนเดียว ควรเดินป่ากับผู้อื่นอย่างน้อย 2 คน
  • อยู่บนเส้นทาง: อยู่บนเส้นทางที่กำหนดไว้ หลีกเลี่ยงการออกนอกเส้นทาง
  • เคารพธรรมชาติ: ไม่ทิ้งขยะ ไม่ทำลายพืชพรรณ และไม่รบกวนสัตว์ป่า
  • ระวังสัตว์ป่า: ระวังสัตว์ป่า เช่น งู แมงมุม ผึ้ง หรือแม้กระทั่งสัตว์ใหญ่อย่างช้าง
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงอากาศร้อน
  • ระวังอากาศร้อน: สวมหมวก ทาครีมกันแดด และหาที่ร่มพักเป็นระยะ
  • ระวังอากาศหนาว: แต่งกายให้อบอุ่น พกเสื้อกันหนาว หมวก ถุงมือ และผ้าพันคอ

อย่างไรก็ตาม แม้เส้นทางเดินป่าจะให้ความรื่นรมย์และประสบการณ์สุดแอดเวนเจอร์ แต่ต้องไม่ละเลยถึงความปลอดภัยและข้อควรระวัง เช่น ศึกษาเส้นทางและสภาพแวดล้อมในพื้นที่ล่วงหน้า เตรียมอุปกรณ์และสิ่งจำเป็นต่าง ๆ อย่างครบถ้วน ระวังอันตรายจากสัตว์ป่าและภัยธรรมชาติ รวมถึงอย่าทิ้งขยะหรือก่อกวนระบบนิเวศน์ ด้วยการเตรียมความพร้อมและปฏิบัติตามข้อควรระวังเหล่านี้อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้ได้รับประสบการณ์สุดประทับใจในการเดินป่าศึกษาธรรมชาติอย่างปลอดภัยและเต็มอิ่ม

Ref - https://mgronline.com/travel/detail/9570000122898

พร้อมทุกกิจกรรมแอดเวนเจอร์ด้วยการวางแผนที่ดี

การผจญภัยกับกิจกรรมแอดเวนเจอร์ไม่ว่าจะเป็นการปีนผา กระโดดร่ม หรือเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ไม่เพียงแค่มอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสให้ได้ท้าทายขีดจำกัดของตัวเอง ฝึกสร้างความอดทน และเรียนรู้การปรับตัวเพื่อเผชิญกับสถานการณ์ใหม่ ๆ แต่ด้วยความเสี่ยงและความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น การวางแผนที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแอดเวนเจอร์ของเรานั้นราบรื่นและปลอดภัย

เราอาจเริ่มต้นจากการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมที่เราสนใจ โดยพิจารณาถึงระดับความยากง่าย ความเสี่ยง รวมถึงสิ่งที่ต้องเตรียมตัวไปด้วย หลังจากนั้นถึงขั้นตอนการเตรียมทั้งร่างกายและจิตใจเช่น การออกกำลังกาย การฝึกสมาธิ นอกจากนี้ยังต้องเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นในกิจกรรมนั้นให้พร้อมอีกด้วย

และอีกหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญคือการวางแผนงบประมาณล่วงหน้า ที่จะช่วยให้เราสามารถจัดสรรเงินได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากกิจกรรมหลาย ๆ อย่างจำเป็นต้องใช้งบประมาณในการเตรียมความพร้อม ทั้งค่าอุปกรณ์ ค่าเข้าร่วมกิจกรรม ค่าประกันภัย รวมถึงค่าที่พักและเดินทาง การมีเงินทุนสำรองย่อมช่วยให้เรามีความสบายใจมากขึ้นเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์จำเป็นได้อย่างดีและตัวช่วยทางการเงินในสถานการ์ณไม่คาดฝันเราจำเป็นต้องมีตัวช่วยที่วางใจได้ด้วย บัตรกดเงินสด มารองรับทุกสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน วางใจด้วยการเลือกบัตรกดเงินสดที่มอบสิทธิประโยชน์และความคุ้มค่าให้กับคุณมากที่สุด เช่น

  • บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส ที่สมัครแล้วอนุมัติรับโปรโมชันกดเงินสดได้ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 30 วัน*
  • มีเงินสำรองพร้อมใช้ ด้วยบริการสั่งเงินโอนเข้าบัญชีได้ตลอด 24 ชั่วโมง
  • สมัครไว้แล้วไม่ได้ใช้ก็ไม่เสียดอกเบี้ย ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี

สำหรับใครที่สนใจสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส สามารถสมัครได้ผ่านทางออนไลน์ที่ > https://www.umayplus.com/cashcard/applyform ตลอด 24 ชั่วโมง

*เพียงมียอดเบิกถอนเงินสดภายใน 30 วันหลังจากได้รับการอนุมัติ (เฉพาะยอดเบิกถอนภายในวันแรก สำหรับลูกค้าใหม่) หลังจบรายการส่งเสริมการขายอัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับเป็นอัตราดอกเบี้ย 19.8% - 25% ต่อปี, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว, ดูเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ยูเมะพลัส