การลงทุนในทองคำเป็นอีกหนึ่งทางเลือกยอดนิยมของนักลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุน เพราะใช้เงินลงทุนเบื้องต้นไม่มาก และเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น ๆ อีกทั้งยังมีผลตอบแทนจากราคาที่สามารถทำกำไรระยะสั้นได้สูง

ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจลงทุนทองคำควรศึกษาวิธีการลงทุน ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ และความเสี่ยงในการลงทุนทองคำเพื่อหารูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง การลงทุนในทองคำนั้นสามารถทำได้หลายวิธี เราได้รวบรวมทางเลือกที่น่าสนใจมาให้แล้ว

 

1. การลงทุนในทองคำระยะยาว

การลงทุนในทองคำระยะยาว เหมาะกับนักลงทุนที่มีเป้าหมายสะสมความมั่งคั่งในระยะยาว สามารถทำได้ด้วยการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA) ด้วยการซื้อทองคำแบบสม่ำเสมอทุก ๆ เดือนด้วยจำนวนเงินเท่า ๆ กัน ด้วยการซื้อทองคำแท่ง หรือทองคำรูปพรรณ โดยทองคำแท่งคือทองคำที่ถูกหลอมในบล็อกสี่เหลี่ยมและทำการขึ้นรูปเป็นแท่ง โดยน้ำหนักจะเริ่มต้นตั้งแต่ไม่ถึง 1 บาท จนถึงมูลค่าหลายสิบบาท การซื้อขายทองคำแท่งจะไม่มีค่ากำเหน็จ แต่จะมีค่าบล็อกในการทำทองคำเพิ่มเข้ามา แตกต่างจากทองคำรูปพรรณ ที่ถูกขึ้นรูปมาเพื่อการใส่เป็นเครื่องประดับเพื่อความสวยงาม เช่น สร้อย แหวน กำไล ต่างหู เป็นต้น การซื้อทองรูปพรรณจะมีค่ากำเหน็จ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับช่างทองในการออกแบบขึ้นรูปทองคำนั่นเอง

หากต้องการลงทุนทองคำในระยะยาวแล้ว แนะนำให้ผู้ลงทุนซื้อทองคำแท่งมากกว่าทองคำรูปพรรณ เนื่องจากค่ากำเหน็จของทองรูปพรรณราคาค่อนข้างสูงกว่าเมื่อเทียบกับค่าบล็อกของทองคำแท่ง ทั้งนี้การลงทุนซื้อทองคำแท่งนั้น ผู้ซื้ออาจพบความยุ่งยากในการเก็บรักษา เนื่องจากเป็นการซื้อมาครอบครองที่ไม่ได้ระบุกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ จึงมีความเสี่ยงที่อาจถูกลักขโมยไปขายต่อ และตอนที่ต้องการขายทองคำต้องคำนึงถึงส่วนต่างของราคาเมื่อทำการซื้อขายด้วย

2. การลงทุนในทองคำระยะสั้น

การลงทุนในทองคำระยะสั้นสามารถทำได้โดยการลงทุนผ่านสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (Gold Futures) ซึ่งเป็นสัญญาซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ ทั้งนี้เป็นการลงทุนที่มีระดับความเสี่ยงสูง จึงจำเป็นต้องติดตามราคาและข้อมูลเกี่ยวกับทองคำไว้อย่างใกล้ชิด

3. การลงทุนเพื่อเก็งกำไรทองคำ

การลงทุนเพื่อเก็งกำไรทองคำเป็นการซื้อขายทองคำในลักษณะของการซื้อในราคาต่ำ และขายในราคาสูงเพื่อทำกำไร โดยสามารถทำได้ด้วยการเทรดทองคำออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน และยังสามารถแลกเปลี่ยนเป็นทองคำแท่งเก็บครอบครองไว้ได้ ก่อนตัดสินใจลงทุนเพื่อเก็งกำไร อย่าลืมสำรวจความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการแอปพลิเคชันก่อนทำการซื้อขายด้วย

4. การลงทุนในทองคำผ่านกองทุนรวม

การลงทุนในทองคำผ่านกองทุนรวม หรือ Gold Fund เป็นการลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในทองคำ การเคลื่อนไหวของหน่วยลงทุนจะเป็นไปตามการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลก เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาติดตามตลาด มีความสนใจอยากลงทุนผ่านผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ใช้เงินในการลงทุนน้อยกว่าการซื้อทองคำแท่ง

ทั้งนี้การลงทุนใน Gold Fund เป็นการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับราคาทองคำในตลาดโลก จึงมีความเสี่ยงในเรื่องของอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

5. การลงทุนในทองคำผ่าน ETF

การลงทุนในทองคำผ่าน Gold ETF เป็นอีกหนึ่งวิธีในการลงทุนในทองคำผ่านกองทุนรวมประเภทหนึ่งที่มีการจดทะเบียนซื้อขายเหมือนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนจึงสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้เหมือนหุ้นทั่วไป โดยรูปแบบของ Gold ETF มี 2 รูปแบบคือ Gold ETF แบบ Feeder Fund ที่ลงทุนในกองทุนรวมของต่างประเทศที่มีนโยบายลงทุนในทองคำ และ Gold ETF ที่ลงทุนโดยตรงในในประเทศ ในปัจจุบันมีกองทุน Gold ETF ให้เลือกหลากหลาย อย่าลืมศึกษาลักษณะของกองทุนและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก่อนตัดสินใจลงทุน

 

ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ

การเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่

1. ภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และเศรษฐกิจโลก

ภาวะเศรษฐกิจของโลก และเศรษฐกิจในประเทศมีผลต่อราคาทองคำโดยตรง หากดอกเบี้ยมีการปรับตัวขึ้น เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจดี ภาครัฐจึงทำการปรับดอกเบี้ยขึ้น ราคาทองคำจะปรับตัวลง แต่หากช่วงไหนเศรษฐกิจไม่ดี อัตราดอกเบี้ยปรับลงต่ำ ราคาทองคำก็จะสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนจะเปลี่ยนไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และได้กำไรมากกว่าเงินฝากอย่างทองคำแทน

2. ราคาน้ำมัน

น้ำมันเป็นหนึ่งในต้นทุนที่ใช้ในการผลิตสินค้า บริการ และการขนส่งต่าง ๆ เมื่อราคาน้ำมันสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิต และการขนส่งปรับตัวสูงขึ้นตาม ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ราคาทองคำจึงเพิ่มสูงขึ้นเพราะนักลงทุนหันมาลงทุนมากเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย กลับกันหากน้ำมันปรับราคาลง ทำให้ต้นทุนการผลิต และการขนส่งลดลง ภาวะเงินเฟ้อลดลง การลงทุนในทองคำก็จะลดลงตามเพราะนักลงทุนก็จะมีทางเลือกในการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ มากขึ้น ไม่จำเป็นต้องซื้อทองคำเพียงอย่างเดียว ราคาทองคำก็จะมีราคาต่ำลง

3. ค่าเงินสกุลดอลลาร์

สกุลเงินที่ได้รับความนิยมใช้จ่ายเป็นสื่อกลางระหว่างกันมากที่สุดในโลกคือสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์มีความผันผวนกับราคาทองคำ กล่าวคือ เมื่อค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง ราคาทองคำจะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น หากค่าเงินดอลลาร์แข็งตัวขึ้น ราคาทองคำจะปรับตัวลงเพราะนักลงทุนจะหันมาลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์แทน

4. ความต้องการในท้องตลาด

หากมีความต้องการซื้อทองคำสูง เช่น เทศกาลตรุษจีน จะส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกตลาด อีกทั้งหากภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ต้องการทองคำในการผลิต รวมไปถึงภาครัฐของแต่ละประเทศนำทุนสำรองไปซื้อทองคำเพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุนในพันธบัตร จะทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นด้วย

 

ความเสี่ยงของการลงทุนในทองคำ

เช่นเดียวกับการลงทุนอื่น ๆ การลงทุนในทองคำแม้จะเป็นสินทรัพย์ที่มั่นคง มีสภาพคล่องสูงแล้วนั้น ยังคงมีความเสี่ยงในการลงทุน ความเสี่ยง ณ ที่นี้คือ ความไม่แน่นอนของผลตอบแทนที่ได้รับ ทองคำก็มีราคาขึ้นลงไม่แน่นอน เหมือนกับสินค้าทั่วไปที่สามารถปรับราคาสูงขึ้น หรือปรับราคาให้ต่ำลง ทำให้ขาดทุนได้ หากซื้อเป็นทองคำแท่ง หรือทองคำรูปพรรณเก็บเอาไว้เองก็มีความเสี่ยงต่อการสูญหายหรือถูกขโมย หรืออาจต้องเสียค่าเก็บรักษาถ้าฝากไว้ที่ธนาคาร อีกทั้งการลงทุนในทองคำไม่ได้มีปันผลเป็นประจำเหมือนการถือครองหุ้น หรือกองทุนอื่น ๆ กำไรในการลงทุนทองคำจะเกิดขึ้นเมื่อขายได้ราคาสูงกว่าตอนซื้อเท่านั้น และยังมีค่าธรรมเนียมเมื่อทำการซื้อขายอีกด้วย

อย่างไรก็ตามการลงทุนในทองคำก็ยังเป็นตัวช่วยในการกระจายความเสี่ยงได้ดี โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ทั้งนี้หากต้องการลงทุนควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบการตัดสินใจลงทุน

 

จะเห็นได้ว่าการลงทุนในทองคำนั้นมีทางเลือกที่หลากหลายมีทั้งการลงทุนระยะสั้น และระยะยาว ทั้งการซื้อทองคำแท่ง หรือทองคำรูปพรรณ การลงทุนในกองทุนรวมหรือหุ้นต่าง ๆ ผู้ลงทุนควรพิจารณาตามความต้องการของตนเอง และศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์และความเสี่ยงในการลงทุนที่ตนเองรับได้ทุกครั้ง

หากตัดสินใจลงทุนทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงแล้ว การมีบัตรกดเงินสดสักใบเป็นตัวช่วยสำรองด้านการเงินก็เป็นเรื่องดี กดเงินสดด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% นานถึง 30 วัน* สามารถทำธุรกรรมออนไลน์ได้ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นการสั่งเงินโอนเข้าบัญชีที่ทำรายการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Umay+ Application กดเงินสดไม่ใช้บัตรได้ที่ตู้ ATM ที่ร่วมรายการ และบริการอื่น ๆ อีกมากมาย หรือหากสมัครไว้แล้วไม่ได้ใช้ก็ไม่เกิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี

หากสนใจสามารถสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัสผ่านทางออนไลน์ได้ที่ https://www.umayplus.com/cashcard/applyform ตลอด 24 ชั่วโมง

 

หมายเหตุ

*เพียงมียอดเบิกถอนเงินสดภายใน 30 วันหลังจากได้รับการอนุมัติ (เฉพาะยอดเบิกถอนภายในวันแรก สำหรับลูกค้าใหม่) หลังจบรายการส่งเสริมการขายอัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับเป็นอัตราดอกเบี้ย 19.8% - 25% ต่อปี, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว, ดูเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ยูเมะพลัส