“กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” เรื่องใกล้ตัวที่เหล่ามนุษย์เงินเดือน จำเป็นต้องทำความรู้จักให้ดี โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเริ่มทำงานยิ่งจำเป็นต้องทราบ เพราะนี่คือหนึ่งในหลักประกันความมั่นคงยามเกษียณที่จะช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างอุ่นใจขึ้น สำหรับใครที่สงสัยว่ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพคืออะไร สิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่จะได้รับมีอะไรบ้าง และเมื่อไหร่ที่เราจะได้รับเงินกองทุนคืน วันนี้เรามีคำตอบมาบอกกัน
o กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) คืออะไร?
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ Provident Fund คือ เงินกองทุนที่นายจ้างและลูกจ้างร่วมกันจัดตั้งขึ้นด้วยความสมัครใจ โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ ให้ลูกจ้างได้มีหลักประกันทางการเงินตอนเกษียณอายุ ตอนลาออกจากงาน ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต ทั้งนี้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ ผ่านกฎหมายที่ออกขึ้นมา เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ลูกจ้างควรจะได้รับ ซึ่งเรียกว่า “พระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” โดยเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมาจาก 2 ส่วนด้วยกัน คือ
1. เงินสะสมที่มาจากลูกจ้าง คือ เงินที่ลูกจ้างจ่ายเข้ากองทุน โดยเงินส่วนนี้จะถูกหักจากเงินค่าจ้าง ตามอัตราที่กำหนดในข้อบังคับกองทุนของแต่ละนายจ้าง ในอัตราต่ำสุด 2% แต่ไม่เกิน 15% ของเงินค่าจ้าง
2. เงินสมทบที่มาจากนายจ้าง คือ เงินที่นายจ้างจ่ายสมทบเข้ากองทุนทุกครั้งที่มีการจ่ายค่าจ้าง ตามอัตราที่กำหนดในข้อบังคับกองทุนของแต่ละนายจ้าง ในอัตราต่ำสุด 2% แต่ไม่เกิน 15% ของเงินค่าจ้าง
ซึ่งกฎหมายกำหนดไว้ว่า นายจ้างจะต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนไม่ต่ำกว่าเงินสะสมของลูกจ้าง เช่น ถ้าเราส่งเงินสะสมเข้ากองทุน 5% นายจ้างจะต้องจ่ายสมทบไม่ต่ำกว่า 5% เช่นกัน นอกจากนี้ บางบริษัทอาจมีข้อกำหนดในการจ่ายเงินสมทบในอัตราที่มากขึ้นตามอายุงาน เช่น ทำงาน 1 - 5 ปี จะได้รับเงินสมทบและผลประโยชน์จากเงินสมทบ 50% หรือ ทำงาน 10 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินสมทบและผลประโยชน์จากเงินสมทบ 100% เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทฯ ตามที่ได้ตกลงกันระหว่างบริษัทและลูกจ้าง
ดังนั้นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ Provident Fund คือ หนึ่งในแรงจูงใจที่ทำให้พนักงานอยากทำงานกับบริษัทนั้นๆ ได้นานมากขึ้น เพราะเปรียบเสมือนหนึ่งในสวัสดิการที่นายจ้างมีให้กับลูกจ้าง เนื่องจากลูกจ้างจะรู้สึกว่าตัวเองได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นทุกเดือนนั่นเอง
นอกจากนี้ลูกจ้างยังได้รับประโยชน์จากการออมเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
1. ช่วยสร้างวินัยในการออมเงินโดยปริยาย เพราะเงินสะสมจะถูกหักจากเงินเดือนหรือเงินค่าจ้างโดยอัตโนมัติ
2. ช่วยให้มีเงินออมไว้ใช้หลังเกษียณ หรือหลังลาออกจากงาน
3. กรณีที่เสียชีวิต เงินกองทุนจะตกเป็นของ “ผู้รับผลประโยชน์” ที่เราระบุไว้ด้วย หากเรามอบผลประโยชน์ให้กับครอบครัว เงินส่วนนี้ก็เปรียบเสมือนหลักประกันทางรายได้ให้กับครอบครัวนั่นเอง
4. สามารถนำเงินสะสมในกองทุนไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 15% ของรายได้ แต่รวมกับการลดหย่อนภาษีเพื่อการเกษียณในรูปแบบอื่นๆ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
5. เงินสะสมที่จ่ายไป จะถูกนำไปบริหารจัดการโดยมืออาชีพ ซึ่งก็คือบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายให้เราเลือกตามความต้องการ เช่น ลงทุนในตราสารหนี้ หุ้นของบริษัทไทย หุ้นของบริษัทต่างประเทศ เป็นต้น และเมื่อเกิดผลกำไรก็จะนำมาเฉลี่ยให้กับสมาชิกทุกคนในกองทุน ตามสัดส่วนของเงินที่แต่ละคนมีอยู่ในกองทุนนั่นเอง
o กองทุนสำรองเลี้ยงชีพลาออกจากงานเดิมแล้วต้องทำอย่างไร ?
เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยว่า หากเราลาออกจากงานแล้วจะทำอย่างไรกับเงินในกองทุนดี ต้องลาออกจากกองทุนด้วยหรือไม่ หรือต้องจัดการเงินส่วนนี้อย่างไร เรารวมคำตอบไว้ให้แล้ว
1. คงเงินไว้ที่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเดิม
แม้ว่าเราจะลาออกจากบริษัทเดิมแล้ว แต่ก็ยังสามารถคงเงินไว้ที่กองทุนเดิมได้ในระยะเวลาที่กองทุนกำหนดไว้ แต่จะต้องเสียค่าธรรมเนียมด้วย ซึ่งวิธีนี้เหมาะกับคนที่ลาออกจากงานไปทำธุรกิจส่วนตัว รวมไปถึงคนที่ยังตัดสินใจเลือกกองทุนในที่ทำงานใหม่ไม่ได้
2. ย้ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพของที่ทำงานใหม่
การโอนเงินย้ายเข้าไปในกองทุนของที่ทำงานใหม่ สามารถทำได้ทันที ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เราไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมและภาษีใดๆ ด้วย
3. ลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการเงินสด แต่การลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะต้องเสียภาษีด้วย หากคุณยังมีอายุยังไม่ครบ 55 ปีบริบูรณ์ และเป็นสมาชิกกองทุนน้อยกว่า 5 ปี
4. โอนเข้าไปซื้อกองทุนรวม RMF for PVD
วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ลาออกจากงาน แล้วบริษัทใหม่ไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือยังไม่เจอนโยบายกองทุนที่ถูกใจ รวมไปถึงผู้ที่ลาออกจากงานแล้วไปทำธุรกิจส่วนตัว ประกอบอาชีพอิสระ เป็นต้น ซึ่งวิธีนี้จะทำให้คุณไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ จากการนำเงินออกจากกองทุนก่อนอายุเกษียณ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปีจากการคงเงินไว้ที่กองทุนเดิมด้วย
o เมื่อไหร่ถึงจะได้รับเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพคืน?
เราสามารถรับเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพคืนได้เมื่อสิ้นสุดการเป็นสมาชิก ไม่ว่าจะสิ้นสุดการเป็นสมาชิกเพราะลาออกจากงาน ลาออกจากกองทุน โอนย้ายกองทุน ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต ทั้งนี้หากคุณลาออกจากงานหรือลาออกจากกองทุน จะได้รับยกเว้นเสียภาษีก็ต่อเมื่อมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์แล้วเท่านั้น และต้องเป็นสมาชิกกองทุนไม่ต่ำกว่า 5 ปีด้วย หากไม่ตรงตามเงื่อนไขนี้จะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เปรียบเสมือนหลักประกันยามเกษียณของเหล่ามนุษย์เงินเดือน ที่จะช่วยให้ใช้ชีวิตบั้นปลายได้อย่างมีความสุข และไม่เป็นภาระทางการเงินให้แก่ลูกหลาน ทั้งนี้การเลือกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพต้องศึกษานโยบายการลงทุนให้ดีว่ามีความเหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการ และความเสี่ยงที่เรายอมรับได้หรือไม่ เพราะเราเองก็เปรียบเสมือนผู้ลงทุนรายหนึ่ง ควรทำความเข้าใจในรายละเอียดของกองทุน รวมไปถึงเงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน